Sunday, April 28, 2013

ลือสนั่น! iPhone Mini ไอโฟนราคาถูกราคาเพียง 4,900 บาทเท่านั้น


ลือสนั่น! iPhone Mini ไอโฟนราคาถูกราคาเพียง 4,900 บาทเท่านั้น
 AppleiPhone  ลือสนั่น! iPhone Mini ไอโฟนราคาถูกราคาเพียง 4,900 บาทเท่านั้น
ลือสนั่น! iPhone Mini ไอโฟนราคาถูกราคาเพียง 4,900 บาทเท่านั้น

iphone-mini-concept2

เป็นกระแสกันอีกครั้งสำหรับ iPhone Mini ซึ่งลือกันว่าเป็น iPhone รุ่นราคาถูกเป็นพิเศษที่ออกรายการเรื่องเล่าเช้านี้โดยสรยุทธ สุทัศนะจินดาพิธีกรชื่อดังของช่อง 3 ได้กล่าวว่า Apple เตรียมเปิดตัวไอโฟนมินิในวันที่ 20 มิถุนายนที่จะถึงนี้ซึ่งส่วนประกอบหลักของตัวเครื่องจะเป็นพลาสติกที่เรียกว่า โพลีคาร์บอเนต แทนที่อะลูมิเนียมเหมือนใน iPhone 5
นอกจากนี้ในข่าวก็บอกว่าคุณสรยุทธได้บอกว่าเพื่อนของเขาได้สั่งซื้อ iPhone Mini ไปแล้ว 2,0003,000 เครื่อง เพื่อเตรียมนำมาทำกิจกรรมบางอย่างซึ่งก็น่าจะเป็นชาเชียวชื่อดังที่ชอบแจกอุปกรณ์ iOS ทั้งหลายอย่างอิชิตันของคุณ ตัน ภาสกรนทีนั่นเอง
สำหรับสเปค (Specs) ของ iPhone mini หรือ iPhone รุ่นประหยัดหรือ iPhone
รุ่นราคาดถูกนั้นคาดว่าพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาด 4 นิ้ว, ส่วนประกอบหลักของตัวเครื่องเป็น โพลีคาร์บอเนต, มีให้เลือกหลากหลายสีเหมือนสินค้าตระดูล iPod รุ่นล่าสุด, รองรับเฉพาะ 3G แต่ที่น่าประหลาดใจคือราคาเพียง 4,900 บาทเท่านั้น ไม่รู้ว่าราคาถูกขนาดนี้จะหมายถึงการซื้อล็อตใหญ่ 3,000 เครื่องหรือว่าราคาขายปลีกทั่วไป แต่ส่วนตัวผู้เขียนเชื่อว่าราคาไม่น่าจะถูกขนาดนี้ เพราะถ้าราคานี้จริงคงผลิตขายไม่ทัน และสวนทางกับสื่อนอกจากหลายสำหนักที่มองว่า iPhone mini นั้นจะมีราคาอยู่่ในช่วง 300-350 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 9,000 ถึง 10,000 บาทซึ่งน่าจะเน้นในส่วนของ ตลาดระดับกลางมากกว่า
ซึ่งเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้น่าจได้มาลุ้นกันอีกครั้งว่า iPhone mini มีอยู่จริงหรือไม่ ?

Saturday, April 27, 2013

โจรสลัดในทะเลจีนใต้ และความท้าทายในการร่วมมือด้านความมั่นคงของอาเซียน

              
                         โจรสลัดในทะเลจีนใต้ และความท้าทายในการร่วมมือด้านความมั่นคงของอาเซียน


      ภัยคุกคามจากโจรสลัดที่ได้รับความสนใจจากองค์กรระหว่างประเทศทางทะเลในปัจจุบันอีกแห่งหนึ่ง คือบริเวณน่านน้ำทะเลจีนใต้ หรือ South China Sea ซึ่งครอบคลุมอาณาบริเวณของหลายประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่สิงคโปร์ อ่าวไทย อินโดนิเซีย มาเลเซีย บรูไน เวียดนาม และ ฟิลิปปินส์ พื้นที่ในทะเลจีนใต้นั้นมีความสำคัญเพราะเป็นเส้นทางขนส่งทางเรือที่มีเรื่อขนส่งผ่านคิดเป็นหนึ่งในสามของโลก เนื่องจากเป็นน่านน้ำที่เป็นทางผ่านสู่ประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ คือ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่า ใต้พื้นทะเลมีน้ำมันและแก๊สธรรมชาติสำรองขนาดใหญ่จึงทำให้หลายประเทศพยายามที่จะมีกรรมสิทธิ์และเข้าครอบครองพื้นที่ในน่านน้ำทะเลจีนใต้

ความจริงแล้วหากกล่าวถึงทะเลจีนใต้ เรามักจะได้ยินถึงเรื่องราวของความขัดแย้งและข้อพิพาทในน่านน้ำที่ทับซ้อนกันระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนด้วยกันเอง และระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนกับประเทศจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณหมู่เกาะแสปรตลีย์ (Spratlys) หรือที่จีนเรียกว่า หนานชา (Nansha) และหมู่เกาะพาราเซลส์ (Paracels) หรือสี่ชา (Xisha) และหมู่เกาะปะการัง แมคเคิลสฟิลด์ แบงก์ (Macclesfield Bank) หรือที่จีนเรียก จงชา (Zhongsha) ปัญหาข้อพิพาทในทะเลจีนใต้เป็นจุดอ่อนสำคัญต่อการสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงในระดับภูมิภาคของอาเซียน และดูเหมือนว่าปัญหาดังกล่าวอาจไม่สามารถแก้ไขได้โดยง่ายนัก เพราะประเทศอาเซียนเองต่างไม่ยอมลงนามในข้อตกลงใดง่ายๆหากข้อตกลงนั้นอาจละเมิดอำนาจอธิปไตยของประเทศตน

ข้อพิพาทเหนือดินแดนในน่านน้ำทะเลจีนใต้ยังเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ประเทศอาเซียนเองไม่สามารถร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหาจากการคุกคามของโจรสลัดได้อย่างเป็นรูปธรรม แต่กลับเป็นการแก้ปัญหาแบบต่างคนต่างทำ ยิ่งถ้าการคุกคามของโจรสลัดเกิดขึ้นในน่านน้ำที่ทับซ้อนกันด้วยแล้วยิ่งเป็นปัญหามากขึ้นเนื่องจากไม่ชัดเจนว่าประเทศใดจะเป็นผู้เข้ามาแก้ปัญหาและบังคับใช้กฎหมายกันแน่

สำหรับปัญหาโจรสลัดในน่านน้ำทะเลจีนใต้ เริ่มมีการขยายตัวมากขึ้นภายหลังวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พ.ศ. 2540 จำนวนโจรสลัดที่มีการรายงานโดยองค์การเดินเรือทะเลระหว่างประเทศ (International Maritime Organization : IMO) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในปี พ.ศ.2552 สถิติการคุกคามจากโจรสลัดในน่านน้ำทะเลจีนใต้มีจำนวนทั้งสิ้น 71 ครั้ง ถือเป็นอันดับสองรองจากน่านน้ำโซมาเลีย ในพ.ศ. 2553 อัตราการเกิดโจรสลัดสูงขี้นอย่างมากถึง 134 ครั้ง พ.ศ. 2554 เกิดโจรสลัดทั้งสิ้น 113 ครั้ง ถือว่าลดลงบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ตัวเลขที่น่าพึงพอใจ และในปี พ.ศ. 2555 มีจำนวนโจรสลัดในน่านน้ำทะเลจีนใต้ทั้งสิ้น 135 ครั้ง และตั้งแต่ต้นปี 2556 ที่ผ่านมา เกิดโจรสลัดมาแล้วทั้งสิ้น 12 ครั้ง โดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นในน่านน้ำทะเลจีนใต้ช่วงบริเวณประเทศอินโดนิเซีย ทั้งนี้เพราะว่าบริเวณดังกล่าวมีเกาะแก่งจำนวนมากซึ่งง่ายต่อการซ่อนตัวและหลบหลีกการจับกุมของเจ้าหน้าที่

สาเหตุที่จำนวนโจรสลัดเพิ่มขึ้นในน่านน้ำทะเลจีนใต้อย่างต่อเนื่อง เพราะ ความไม่ชัดเจน ไม่ครอบคลุมปัญหาด้านกฎหมายระหว่างประเทศ ทำให้โจรสลัดอาศัยเป็นช่องว่างเพื่อออกปฏิบัติการอยู่อย่างต่อเนื่องจนถึงในปัจจุบัน นอกจากนี้ความไม่ชัดเจนของกฎหมายทะเล ในการให้นิยามโจรสลัดไว้เพียงในทะเลหลวงเท่านั้น ไม่รวมถึงทะเลอาณาเขตและบริเวณท่าเรือ ทำให้ยิ่งเพิ่มความยากลำบากในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่

ประการที่สอง คือการขาดการร่วมมือประสานงานอย่างแท้จริงระหว่างประเทศในภูมิภาค ในการต่อต้านโจรสลัด ทั้งนี้เนื่องจากประเทศในภูมิภาคอาเซียนเองมีพื้นที่ที่ทับซ้อนกันในทะเลจีนใต้ โดยเฉพาะบริเวณหมู่เกาะแสปรตลีย์ ดังนั้นในการลงนามข้อตกลงร่วมมือกันเพื่อแก้ปัญหาโจรสลัดอย่างเป็นรูปธรรมจึงเกิดขึ้นได้ยากเพราะการลงนามในข้อตกลงใดๆอาจละเมิดอำนาจอธิปไตยทางทะเลของประเทศใดประเทศหนึ่ง ประเทศอาเซียนให้ความสำคัญต่อการปกป้องอำนาจอธิปไตยในน่านน้ำของตนเองเป็นสำคัญมากกว่าที่จะยอมลงนามข้อตกลงร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาโจรสลัดร่วมกัน ซึ่งถือเป็นการท้าทายอย่างยิ่งต่อการสร้างประชาคมอาเซียนในอนาคต

ประการที่สาม ระบบการลงทะเบียนเรือเพื่อการค้าขาย หรือให้เช่าเรือเพื่อการค้านั้นไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ในปัจจุบันหากต้องการลงทะเบียนเรื่อขนส่งในน่านน้ำนานาชาติ ค่อนข้างทำได้ง่าย เพียงแค่แฟ็กข้อมูลที่เกี่ยวกับเรือขนส่ง เช่น ขนาด น้ำหนัก ชื่อเรือ ชื่อเจ้าของเรือ ก็สามารถลงทะเบียนได้แล้ว โดยไม่ได้มีการตรวจสอบว่าข้อมูลดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ ดังนั้นจึงเป็นช่องทางที่โจรสลัดสามารถเข้ายึดเรือ ลงทะเบียนใหม่โดยเปลี่ยนชื่อ และข้อมูลของเรือขนส่งลำนั้น ด้วยวิธีนี้โจรสลัดจึงสามารถหลบหลีกการจับกุมได้โดยง่าย

ประการสุดท้าย ประเทศในอาเซียนเองยังขาดผู้เชี่ยวชาญในการแก้ปัญหาโจรสลัด รวมทั้งภัยคุกคามทางทะเลอื่นๆ นอกจากนี้ยังขาดเครื่องมือ และยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยในการควบคุมและปราบปรามภัยทางทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นในการแก้ปัญหาโจรสลัดและปกป้องความมั่นคงในน่านน้ำของภูมิภาค ประเทศอาเซียนจึงยังต้องอาศัยความช่วยเหลือจากประเทศมหาอำนาจ เช่นญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น

ประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีความจำเป็นต้องพึ่งพาเส้นทางเดินเรือนี้ทั้งในการขนส่งน้ำมันจากตะวันออกกลางและสินค้าเข้าออก ได้รับผลกระทบอย่างมากในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา โดยเรือสินค้าญี่ปุ่นถูกจู่โจมกว่า 140 ครั้ง ญี่ปุ่นจึงเป็นตัวตั้งตัวตีในความพยายามสร้างกลไกความร่วมมือกับประเทศในภูมิภาค ทั้งยังส่งเรือรบและ เรือยามฝั่งเข้าลาดตระเวนในพื้นที่ อย่างไรก็ตามความพยายามในการปกป้องน่านน้ำของญี่ปุ่นนั้นยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง จะเอาเรือรบเข้ามาราดตระเวนในภูมิภาคก็ทำไม่ไดง่ายนักเนื่องจากเกิดความหวาดระแวงจากประเทศต่างๆ ในภูมิภาคว่าญี่ปุ่นมีความมุ่งหวังอย่างอื่นหรือไม่ เช่น เมื่อญี่ปุ่นวางแผนส่งเรือลาดตระเวนป้องกันโจรสลัดบริเวณมหาสมุทรอินเดีย มาเลเซียและฟิลิปปินส์ แต่ถูกปฏิเสธจากอินโดนีเซีย เป็นต้น

จากวิกฤตการณ์โจรสลัดที่นับวันทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น องค์กรระหว่างประเทศหลายองค์กรจึงมีความพยายามที่จะป้องกัน และลดสถิติการเกิดโจรสลัดในบริเวณทะเลจีนใต้ แม้ว่าประเทศสมาชิกอาเซียนจะมีการรวมกลุ่มกันแบบย่อยๆ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านความมั่นคงในการป้องกันภัยคุกคามจากโจรสลัด อาทิเช่น ในพ.ศ. 2546 มาเลเซียกับไทย เริ่มความร่วมมือในการป้องกันภัยทางทะเลในน่านน้ำระหว่าง 2 ประเทศ ในปีถัดมา สิงคโปร์ มาเลเซียและอินโดนิเซีย ริเริ่มข้อตกลง MALSINDO ซึ่งต่อมาพัฒนาเป็นนโยบาย the Eyes in the Sky เพื่อร่วมมือกันป้องกันภัยจากการคุกคามในน่านน้ำของ 3 ประเทศ และฟิลิปปินส์เองก็ได้ร่วมมือกับมาเลเซีย และอินโดนิเซีย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านความมั่นคงในทะเล รวมทั้งแลกเปลี่ยนเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยพัฒนาขีดความสามารถในการป้องกันภัยจากการคุกคามทางทะเล แต่การรวมกลุ่มดังกล่าวดูเหมือนไม่สามารถลดจำนวนโจรสลัดในน่านน้ำได้อย่างจริงจัง ความร่วมมือจากประเทศนอกกลุ่มจึงมีบทบาทสำคัญในการปราบปรามปัญหาการขยายตัวของโจรสลัดในน่านน้ำทะเลจีนใต้

ในปี พ.ศ. 2547 ได้มีการจัดตั้ง ข้อตกลงความร่วมมือระหว่างภูมิภาคด้านการต่อต้านโจรสลัดและการปล้นสะดมภ์กองเรือในเอเชียหรือ(Regional Cooperation Agreement on Combating Piracy and Armed Robbery against ships in Asia: ReCAAP) เป็นหน่วยงานกลุ่มความร่วมมือเพื่อแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับความมั่นคงในทะเล มีฐานปฏิบัติการในสิงคโปร์ และได้รับการสนับสนุนจาก 17 ประเทศในภูมิภาคเอเชียเพื่อแก้ไขปัญหาโจรสลัด

นอกจากนี้ยังส่งเสริมประสิทธิภาพของประเทศสมาชิกในการต่อต้านการคุกคามจากโจรสลัดอีกด้วย หน่วยงานนี้ถือเป็นหน่วยงานความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพอย่างมาก แต่ประเทศสมาชิกอาเซียนบางประเทศแม้จะให้ความร่วมมือกับ ReCAAP แต่ก็ยังไม่ยอมลงนามในข้อตกลงบางประการที่อาจเปิดโอกาสให้ประเทศอื่นเข้ามาก้าวก่ายในกิจการภายในของประเทศตน

ภัยคุกคามจากกลุ่มโจรสลัดเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขโดยอาศัยความร่วมมือของทุกฝ่ายเป็นสำคัญ เพียงประเทศใดประเทศหนึ่งคงไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ สำหรับอาเซียนเองในอีกไม่นานนี้จะมีการเปิดประชาคมอาเซียน ซึ่งประกอบด้วย 3 เสาหลักสำคัญ

สำหรับเสาเศรษฐกิจและวัฒนธรรมนั้น ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความรู้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับเสาประชาคมการเมืองและความมั่นคงนั้น ไม่ค่อยมีการพูดถึงหรือให้ความรู้กับประชาชนมากนัก สาเหตุสำคัญที่เสาประชาคมการเมืองและความมั่นคง ไม่สามารถเดินหน้าได้มากเท่ากับเสาด้านเศรษฐกิจและเสาด้านวัฒนธรรม เนื่องจากข้อตกลงของประเทศสมาชิกอาเซียนที่จะไม่ละเมิดอำนาจอธิปไตยซึ่งกันและกัน

ดังนั้นข้อตกลงด้านความมั่นคง รวมทั้งข้อตกลงในการแก้ไขปัญหาโจรสลัดนั้นจึงไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างเป็นรูปธรรม สมาชิกอาเซียนไม่ได้มีบทบาทมากนักในการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ แต่กลับเป็นประเทศมหาอำนาจนอกกลุ่มที่เข้ามามีบทบาทในการป้องกันการรุกรานของโจรสลัดในน่านน้ำทะเลจีนใต้

จึงเป็นที่น่าจับตามองว่าอาเซียนจะดำเนินการอย่างไรภายใต้ประชาคมการเมืองและความมั่นคงเพื่อการแก้ปัญหาโจรสลัดในน่านน้ำทะเลจีนใต้ และเพื่อสร้างความร่วมมือให้เกิดความมั่นคงและสงบสุขในภูมิภาคต่อไป

                        อยากให้มีการร่วมมือกันแบบนี้ทุกเรื่องเลยจะได้ไม่คอยแต่จะสร้างความตรึงเครียด
                                                                                                             
                                                                                                                                                  ที่มา มติชน และ marinerthai

เว็บ E-Commerce ทำเงินได้จริงๆนะ


เว็บ E-Commerce ทำเงินได้จริงๆนะ ^^



สวัสดีๆเพื่อนๆทุกคนนะครับ purse ครับ วันนี้มาอัพเดตบทความล่าสุดแบบแปลกๆทั้งที่ความรู้ก็ไม่ได้มากหมายเหมือนท่านเทพท่านเซียนทั้งเอาเป็นว่าเขียนไป จะโดนว่าหรือเปล่าไม่แน่ใจเอาตามใจล่ะกัน นั่งรวบรวมความกล้าและข้อมูลมา1อาทิตเต็มๆเพื่อที่จะเขียนเอาเป็นว่าเริ่มกันเลยดีกว่า เพราะเดี๋ยวนี้ต้องอัพบทความและสินค้าลงทั้งเว็บหลายเว็บร่วมถึงแฟนเพจในเฟสและกลุ่มต่างด้วยเพราะ ปัจจุบันทีมงานได้หันไปจับธุรกิจ E-commerce เป็นงานหลักแทนวันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องนี้กัน ^^
ใครว่าธุรกิจ E-commerce หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าขายของผ่านเน็ท จะไม่สามารถทำเป็นงานหลักและมีรายได้ที่มั่นคงได้ เรามาดูเป็นข้อๆกัน
ทำไมคนส่วนใหญ่เปิดเว็บขายของแล้วขายของไม่ได้ ลงทุนไปแล้วกลับจมทุนหมดแล้วบ่นว่าขายของออนไลน์ไม่เวิร์ค T__T”
ตอบ ต้องบอกก่อนว่า การขายของออนไลน์นั้นไม่ได้ง่ายอยากที่หลายๆคนฝันไว้ และก็ไม่ได้ยากขนาดเกินเอื้อมเลยครับ ขึ้นอยู่กับว่าคุณขายอะไรมากกว่า เพราะเอาจริงๆแล้วองค์ประกอบการขายของออนไลน์นั้นไม่ได้มีอะไรมากเลย ผมจะจำแนกให้ดูชัดเจนครับ
ตัวเว็บไซต์
เดี๋ยวนี้ง่ายมากๆครับ เพื่อนๆจะเลือกจ้างพวก Freelance รับทำเว็บไซต์ รับทำเว็บขายของ หรือพวกบริษัทรับทำเว็บไซต์ ก็ได้
ส่วนเว็บสำเร็จรูปที่ผมแนะนำแต่ผมไม่ได้ใช้เพราะผมใช้ บล็อกสปอต เสี่ยงโดนลบนิดหนึ่งแต่ถ้าหวังลูกค้าจากต่างประเทศแบบที่ ทำSEO ไม่ค่อยเก่งน่ะครับเลยคือ
  •     ·         blogger
  • ·         igetweb
  • ·         ready planet
  • ·         shopup
  • ·         tarad.com
  • ·         weloveshopping ก็ได้ครับ

สรุป ทุกเจ้าผมบอกเลยว่าดีและใช้งานได้เวิร์คหมด โดยส่วนตัวผมชอบ 2 เจ้านี้แต่ไม่ได้ใช้ครับ igetweb และ ready planet เพราะผมเห็นเค้าออกแบบตบแต่งเว็บไซต์ให้ลูกค้าแล้วสวยมากๆเลย เอาเป็นว่าใครสนใจก็ไปดูเจ้าที่ผมว่าไว้ก็ได้ครับ
การตลาดออนไลน์
เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะตัดสินว่าจะเกิดหรือจะดับในวงการนี้เลยทีเดียว ซึ่งการทำการตลาดออนไลน์นี้ก็ไม่ยากเลย ใช้การวิเคราะห์ + เงินทุนสักส่วนหนึ่งตีไปว่า 1 หมื่นบาทสำหรับเริ่มต้นกำลังดีครับ ผมจะแยกให้ชัดเจนดังนี้
·         SEO คือ คนที่เล่นคอมสนใจสินค้าตัวหนึ่ง เค้าก็จะต้องค้นหาร้านขายของบน Google อย่างแน่นอนเพราะเมืองไทย 99.99% ทุกคนที่เล่นคอมต้องเข้า Google ครับ SEO ก็คือให้เว็บไซต์ของเรานั้นไปติดอยู่หน้าแรกอันดับดีๆเพื่อให้เข้าถึงลูกค้านั้นเอง ในส่วนนี้หากเรายังไม่มีความรู้ด้าน SEO ให้เข้าไปศึกษาจากเว็บไซต์ Thaiseoboard.com ได้เลยครับ เพราะมีความรู้ให้เราเข้าไปค้นหาได้มากมาย ส่วนใครไม่อยากศึกษาผมก็แนะนำให้ใช้บริการรับทำ SEO ที่ต่างๆ ส่วนที่ไหนที่ผมแนะนำนั้นผมคงบอกไม่ได้ว่าเจ้าไหนดีไม่ดี (ผมก็รับทำ SEO อยู่เหมือนกันครับ แต่ค่อยข้างเลือกลูกค้าระดับหนึ่ง) ซึ่งราคาก็จะเป็น TOP 1 3 5 10 ไล่ไปแบบนี้ สนนราคาเริ่มต้น TOP 10 ส่วนใหญ่จะ 8,000 บาทสำหรับคีย์เวิร์ดที่มีการแข่งขันไม่มาก จนถึง TOP 1 3 ราคาหลักแสน ล้านก็มีครับ  แล้วคีย์เวิร์ดอะไรราคาหลักล้านละ !!?? ใบ้ให้ครับ คีย์เวิร์ดการพนันทั้งหลายครับ เค้าจ้างกัน TOP 1 หลักล้านเลย เพราะมูลค่าเค้าเดือนนึงไม่ต่ำกว่า 50ล้าน+ ครับ จ้างทำ SEO แค่ล้านกว่าบาทจิ๊บๆเลย
·         PPC ก็คือ Ads โฆษณาบน Google เหมือน SEO แต่อันนี้จ่ายเงินให้ทาง Google โดยตรงครับ เสียเงินเป็นคลิก เช่น วันนี้คนคลิกโฆษณาบน Google ของเรา 10 คลิก คลิกละ 5 บาทวันนี้เราก็เสีนเงิน 50 บาทครับ ง่ายๆแค่นี้เอง ซึ่งค่าคลิกส่วนใหญ่ก็ประมาณ 5 บาท – 20 บาทครับ ขึ้นอยู๋กับคนที่มา Bid สู้กับเราว่าเยอะไหม อันนี้ต้องไปศึกษากันซะหน่อยครับ
·         Facebook Ads เคยเล่นเฟสบุ๊คแล้วเห็นโฆษณาที่เขียนว่า Sponser ไหมครับ อันนี้ก็เสียเหมือน PPC ครับหลักการเดียวกันแต่เสียเงินให้ Facebook โดยตรงครับ
·         การโฆษณาตามเว็บบอร์ด เช่น หากเราขายครีมบำรุงผิวหน้า เราก็ควรไปตั้งขายของที่เว็บ meedmor.com marouy.com พวกนี้จะเป็นตลาดที่มีแม่ค้าและคนเสพที่เป็นผู้หญิงอยู่มากครับ
·         การซื้อ Banner ให้เราไปเช่าซื้อ Banner โฆษณาตามเว็บบอร์ดเลยครับ เราขายอะไรก็ไปหาเว็บบอร์ดแน่ๆนั้น ผมแนะนำให้เราเสียเงินเพื่อโปรโมทร้านเราในระยะแรกจะเวิร์คมากๆครับ
·         การตลาดบนเฟสบุ๊ค คือ ให้ทำ Facebook fanpage แล้วหาคน Like แล้วเราก็เลี้ยง Fanpage ของเราเรื่อยๆ หาอะไรน่ารักๆมาโพส ผสมสินค้าของเราทุกวันๆเพื่อให้เกิด Activity ร้านค้าของเราครับ เดี๋ยวนี้เว็บไซต์ผมไม่ทำเว็บบอร์ดกันแล้ว จะหันไปถามตอบลูกค้าทาง Facebook Fanpage เสียมากกว่า เพราะเดี๋ยวนี้คนทุกๆคนก็น่าจะเล่นเฟสบุ๊คกันหมดเเล้วเนอะ
·         การตลาดด้านอื่นๆ เช่น Offline หรือแบบแปลกๆ เช่น Youtube หรือการสร้างกระแส ซึ่งยังมีอีกหลายแบบเลยที่เป็นการตลาดดีๆ เช่น ไปจ้างให้พวก Fanpage บน facebook ที่มีคน like หลากแสน หลักล้าน ให้ลงโพสร้านค้าของเราก็ได้ครับ เดี๋ยวนี้มันมีบริการแบบนี้อยู่ ซึ่งหาเราก้าวเข้ามาวงการ internet marketing แล้วจะพบสิ่งพวกนี้และบริการใหม่ๆแปลกๆอีกมากเรื่อยๆไม่มีหมดครับ ซึ่งก็สนุกดีได้เงินด้วย ^^
สินค้าที่จะขาย
อันนี้สำคัญญญญญญญญที่สุดของที่สุดเลยครับ ผมจะไม่พูดว่าขายอะไรดีนะครับ เพราะใน Google ไปค้นดูมีคนแนะนำเยอะมาก ซึ่งผมว่ามันขายได้หมดครับ
เชื่อไหมครับว่ามันเป็นอะไรที่ยากสำหรับผมมาก เพราะในช่วงแรกนั้นผมไม่มีเงินทุน จะไปซื้อสินค้ามาสต็อกไหนจะไม่รู้ข้อมูล ไม่มีความรู้ด้านนั้นๆ ทุนไม่มี มีแต่ฝีมือทำการตลาดออนไลน์ ซึ่งช่วงแรกผมก็เซอร์เวย์ดูว่าจะขายอะไรดี  ลองผิดลองถูกอยู่กับเว็บขายของออนไลน์อย่าง อเมซอน ตอนเดือนแรกเหนื่อยมากบางวันนั่งทำงานจนตีหนึ่งตี2บางคืนถึงตี3เพื่อจะโปรโมทเว็บ(ไม่มีเงินพอจ้างเค้า)ของตัวเองซึ้งตอนนี้ผลที่ออกมาก็พอกัดฟันกับจำนวนคนเข้าเว็บและยอดขาย(พอได้ค่าไฟ)พอมีออเดอร์แรกเข้ามาถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้จับเงินทั้งหมดแต่มันก็เป็นความภาคภูมิ ใจที่เราก็ทำได้ ก็เลยสนับสนุนการขายของออนไลน์เต็มที่ขอแค่มีความขยันและอดทน  แต่ช่วงนี้สำหรับคนที่สมัครเป็นตัวแทนขายกับ อเมซอนมากจริงๆ ทำตลาดอยากพอสมควรใครที่เดินผิดทาง ทำSEO ไม่เป็น อาจจะจบเห่เอาง่ายๆ ถ้าไม่ขยันกันจริงๆ เพราะคนขายมากกว่าคนซื้ออีกครับ ^__^ ตอนนี้กำลังคิดจะจับสินค้าตัวอื่นบ้างอะไรบ้างประมาณนี้เพราะเริ่มทุนมาขยายสินค้าตัวอื่นๆอย่างเช่นพวกครีมบำรุงผิว ครีมกันแดด เซรั่มต่างๆ ตอนนี้กำลังมองอยู่ว่าจะทำแต่ ขอไม่บอกนะครับเดียวคู่แข่งเยอะ ซึ่งพวกนี้ขายได้เรื่อยๆ แล้วผมก็ไม่สะเทือนเท่าไหร่ครับเพราะมีไปทำสินค้าตัวอื่นๆที่ผมมองว่ามันไม่ได้เป็นเทรนด์ชั่วคราวแบบสินค้าทั่วไปที่เห่อกันเป็นและกำลังจะหายไปตอนนี้ครับ
ผมบ่นๆมานี้คืออะไร คืออยากจะบอกว่า หากเพื่อนๆมีแหล่งสินค้าดีๆอยู่ในมือ หรือคนใกล้ตัวแล้ว เรียกว่ามีของจะขายอะ ผมว่าได้เปรียบมากๆ ให้ลองทำขายเลยครับ
เพื่อนๆอ่านมาถึงตรงนี้ก็เยอะแล้วครับ ผมก็พิมพ์เมื่อยด้วย ผมจะบอกอะไรดีๆให้ครับ
STEP เคล็ดลับขายของออนไลน์ไม่ยากเลยครับ
1. หาสินค้าครับ แล้วดูคู่แข่ง !!! บอกเลยว่าทุกตลาดสินค้ามีคู่แข่ง มีเจ้าที่แน่นอนครับ อย่าไปกลัว ลุยเลยครับ !!!
2. จ้างทำเว็บไซต์ ไม่ต้องมาทำเองหรอกครับ ไปจ้างที่ผมแนะนำข้างบนเลย ***ควรจะมีเว็บไซต์เพราะน่าเชื่อถือแถมจัดการโปรโมทง่ายอีกด้วย*** 
3. ถ่ายรูปสินค้า ใช้มือถือนี่ละครับ iphone 4s กล้องถ่ายแล้วสวยเลยแหละ จัดแสงดีๆ ใช้โปรแกรมแต่งรูปอะไรก็ได้ถ่ายชัดๆ ***ถ่ายไม่เป็นก็ไปก็อปแนวก็ถ่ายรูปตามเว็บขายของมากมายเป็นตัวอย่าง***
4. มีเว็บแล้วก็โปรโมทเลยครับ จากที่แนะนำด้านบนไปครับ SEO ทำไป หากยังไม่มั่นใจก็ไปขายตามเว็บบอร์ดก่อนก็ได้ ไปดูเค้าขายกันบนเว็บบอร์ดยังไงผมแนะนำเข้าเว็บ Overclockzone.com ไปที่ forum นะครับจะเห็นร้านขายของ ผมบอกเลยว่าร้านทีมีดาว 4 – 5 ดาวกำไรเดือนๆนึงไม่ต่ำกว่า 2- 3 หมื่นสบายๆเลยครับ
5. ทำ Fanpage facebook โปรโมทอีกครับ Facebook Ads ใส่เข้าไป ยอมเสียเงินเพื่อหาลูกค้าครับ ในช่วงแรกแนะนำให้ไปจ้าง like ละ 0.5 บาทสักพัน like ครับเพราะเมื่อคนทั่วไปเห็นแล้วจะได้กล้า like fanpage ของเราครับ เป็นจิตวิทยาที่ว่า เมื่อคนเห็น fanpage นี้คน like มากก็จะ เออ ออ ไปว่าดีและกล้า like ครับ เสร็จเรา อิอิ ^__^

6. อดทนครับ ขยันโปรโมทและทำเว็บไซต์ของเราให้ดีครับ ส่วนใหญ่ผมบอกได้เลยว่าคนไทยนิยมโทรสั่งครับ เพราะกลัวโดนหลอกบ้าง ไม่เชื่อใจบ้าง สั่งซื้อไม่เป็นบ้าง เตรียมตัวรับโทรศัพท์ได้เลยครับ
7. จากนี้เดี๋ยวก็จะเป็นงานกันเองละครับ เพื่อนๆแต่ละคนเก่งๆกว่าผมทั้งนั้น
บทความนี้ผมพิมพ์มาเยอะกว่าทุกบทความในเว็บนี้เลย สงสัยเพราะอยากให้คนอื่นทียังยึดติดการตลาดแบบเก่าหันมาสนใจตลาดที่มีคนจับจ่ายปีหนึ่งมากกว่า1000ล้านคน
ยังไงผมก็ขอให้เพื่อนๆทุกคนประสบความสำเร็จในวงการ E-commerce นะครับ ผมการันตีได้เลยว่ามันทำเงินได้มาก ได้จริง ขึ้นอยู่กับเราทั้งนั้น ขอแค่ทำให้จริงครับ ซึ่งอยากจะให้เป็นอาชีพหลักเลยแหละครับ เพราะหากจะทำเป็นอาชีพเสริมผมมองว่าถ้าเจอตลาดที่คู่แข่งมาก แล้วคุณมาทำเล่นๆ ผมว่าไม่รอดแน่นอนครับ ของผมทำจริงเหนื่อยมากเลยครับ ซึ่งแต่ก่อนผมก็มีมุมมอง E-commerce ว่าทำเป็นอาชีพเสริมขายของเล่นๆ น่ารักๆก็ได้ ซึ่งตอนนี้ผมบอกได้เลยว่าคิดผิด คุณไม่รอดแน่ๆครับ แต่อยากให้มองในแง่ดีว่า
ตลาดไหนคู่แข่งเยอะ คนขายเยอะ คนค้นหาเยอะ Red Ocean แสดงว่าน่าเข้าไปแชร์ส่วนแบ่งทางการตลาดกับเค้าด้วย ทั้งนี้ต้องดูความพร้อมของเราเองด้วยว่าพร้อมจะลุยไหม ซึ่งหากเพื่อนๆมีสินค้าเฉพาะที่คนทั่วไปจะมาแข่งง่ายๆไม่ได้ ก็ยินดีด้วยครับ ผมยกตัวอย่างเลยคือ เบาะแต่งรถยนต์ ครับ เพื่อนผมขายอยู่ สบายมากกกก คู่แข่งน้อยมากเพราะสินค้าคนอื่นหามาขายไม่ได้ ผมเรียกว่า Blue Ocean เลยครับ เชื่อไหมครับว่าเพื่อนผมมันขายแค่ตามเว็บบอร์ดก็ทำกำไรได้เดือนละครึ่งแสนชิวๆเลยครับ ทั้งที่ไม่มีความรู้เรื่องเว็บ ไม่มีความรู้การตลาด SEO PPC ไม่มีเลย ยังประสบความสำเร็จได้ ผมถึงบอกว่า สินค้าที่จะขายนั้นสำคัญมากกกกกก v^__^v”
เหมือนจะออกทะเลไปไกล 5555+ จะพยายามอัพเดทบทความใหม่กันละครับถึงมีคนอ่านนะครับ เพราะเดี๋ยวผมไปขึ้นเว็บใหม่อยู่ตลอดไม่ได้หยุดเลย เหนื่อยมาก แต่ก็ดีใจ มีแรงใจทำงานด้านนี้ไปเพราะเห็นแล้วว่ามีช่องทางที่จะให้เราเข้าไปทำได้มาก จริงๆผมยังมีอะไรที่อยากเล่าอีกมากอย่างกัน diary ส่วนตัวเลยแฮะ ไว้คราวหน้าจะมาอัพใหม่นะครับ (ตามอารมณ์ 555+)


โชคดี ร่ำรวยทุกคนครับ $$$^____^$$$

Thursday, April 25, 2013

ออนทัวร์นครหลวงเวียงจันทน์(ทริปพิเศษ) ตอนเดียวจบ


                   กำไรของชีวิตช่วงหนึ่ง ภาค2 (ตอนเดียวจบ)
ออนทัวร์นครหลวงเวียงจันทน์(ทริปพิเศษ)ต่อจากภาคที่แล้ว
        ออนทัวร์นครหลวงเวียงจันทน์(ทริปพิเศษ)พิเศษสำหรับวันนี้...รางวัลของชีวิต(กำไร)ที่ได้เดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างไม่ว่าจะเป็นทั้งในประเทศและต่างประเทศวันนี้..จะมาเขียนเรื่องไปเที่ยวที่ไหนดีหนอ...เอานี้ดีกว่าเน่าะ  สปป.
เพราะไปบ่อยมากเริ่มที่ไหนดีละ...วันที่เดินทางไปนครหลวงเวียงจันทน์ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกและไม่ใช่ครั้งสุดท้ายครั้งนี้เป็นโบนัสปีใหม่ 2555-2012 ปีที่เค้าว่ากันว่าโลกจะแตกนั้นแหละครับ...ย้อนไปปีใหม่ เฝ้าสถานีหรือที่ทำงาน สงสัยจะกลัวสถานีหาย หรือว่ามันจะขโมยนี้ก็ไม่รู้ ทริปนี้เป็นโบนัสปีใหม่หลังจากทำงานมาทั้งปี ตอนแรกผลโหวตว่าจะไปวังเวียง กันตามแพลนที่วางเอาไว้ว่าจะไปแต่ติดที่เวลาและงานที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้นงานเยอะขึ้น เลยตัดทริประยะไกลเอาแค่ใกล้ไปกลับได้สบาย ก็ต้องมานั่งคิดว่าจะไปไหนดีตกลงว่าจะไปที่นี้เลย ท่าหงอน ล่องแพ กินอาหารจิบเครื่องดื่มเย็นๆดูธรรมชาติ แถวท่าหงอนดีกว่า.และตั้งแต่วางแพลนว่าจะไปตั่งแต่ วันนั้นจนวันนี้วันที่เขียนบทความนี้ก็ยังไม่เคยได้ไปท่าหงอนสักครั้งเลยในชีวิต อยากไปล่องแพจริงๆมีแต่คนอื่นได้ไปกัน นอกเรื่องไปไกลละ เข้าเรื่องดีกว่าเนาะ หลังจากมีคำสั่งให้หยุดงานเป็นโบนัสปีใหม่แต่ล่ะคนก็ตั้งตารอวันที่จะไป พอถึงวันที่จะออกเดินทางจริงมีการรวมทีมงานทั้ง2ชุดเข้าด้วยกันเพราะไปพักผ่อน เสียดายมากเลย รอบนี้ขาประจำไม่ได้ไปด้วยทั้งคันรถ Fortuner 
   มีคนที่ไปกันทั้งหมด
 มีคนที่ไปกันทั้งหมด  9คนแค่นั้น ออกเดินทาง11.30 น.จากเวียงจันทน์ โชร์เฟอร์
คนหล่อบอกอย่างดีว่าจะไปท่าหง่อน พอออกเดินทางมีได้10กว่านาที มีการเปลี่ยนแพลนกระทัน เปลี่ยนเป้าหมายนั้นเอง เปลี่ยนจากล่องแพที่ท่าหง่อน มาเป็นล่องเหมือนกันแต่เป็นล่องเรือแทน พูดถึงทริปนี้ทีไรคิดถึง หนังเรื่อง ไททานิค
จังเลยจริงๆ นะเอาเป็การเดินทางครั้งนี้ไปถึงเป้าหมายปาเข้าไปก็14.30น ล่ะมีเวลาล่องเรื่อไม่นานเรื่องนั้น ลืมบอกไปว่าทริปนี้เป้าหมายที่เปลี่ยนใหม่นั้นคือ เขื่อนน้ำหงึ่ม
นั้นเองครับ ใช้เวลาทั้งหมดหาเรือสั่งอาหารกว่าจะได้ออกเรือเกือบ20นาที เริ่มภารกิจพิเศษนั้นคือล่องเรือทานอาหารกันบนเรือ
ไปเรื่อย จนถึงจุดชมวิวกลางน้ำคนขับเรือจะปล่อยให้ลงเรือเพื่อไปชมวิวและถ่ายรูปกันบนหอถ่ายรูปกลางน้ำ ถามคนเรือว่าน้ำลึกเท่าไร คำตอบคือ30เมตร ลึกน่าดูถ้าตกลงไปจะเหลือหรือเปล่า(ไม่อยากคิด) ถ่ายรูปจนเป็นที่พอใจละก็กลับมาขึ้นเรือล่องเรือต่อ เรือเลี้ยวกลับลำเพื่อกลับเข้าฝั่งเพราะเวลาผ่านไป2ชั่วโมง เร็วจัง แปปเดียวเองเสียดายมากแต่ต้องกลับกันแล้วหมอก
เริ่มลงฟ้าเริ่มมัวแล้วเดียวกลับเข้าไปนอนที่เวียงจันทน์ต่อมันจะดึกเพราะมีทริปโบนัสพิเศษต่อ เพราะค่ำคืนมี้มี งานท่องราตรี
นครหลวงเวียงจันทน์ เป็นของแถมก่อนเดินทางกลับเมืองไทยพรุ่งนี้...ทริปนี้จบลงด้วยความประทับใจ กับบรรยากาศของเขือนน้ำหงึม สวยงามมากมาย  เจอกันทริปหน้าครับ หนองคาย+มุกดาหาร+นครพนม+ช่องเม็ค+ปากเซ+สวรรณเขต  ครับทริปหน้าจากขอบอกทั้งมันทั้งฮา โดยทีมเก่าเจ้าประจำ  

                                   
                                         purse 95.50-103.30MHz.  

Wednesday, April 24, 2013

กำไรของชีวิตช่วงหนึ่ง(ตอนที่3)


กำไรของชีวิตช่วงหนึ่ง(ตอนที่3)

    ความเดิมจากตอนที่1
           ออนทัวร์นครหลวงเวียงจันทน์(ทริปพิเศษ)พิเศษสำหรับวันนี้...รางวัลของชีวิต(กำไร)เอาทริปท่องเที่ยวและออนทัวร์นครหลวงเวียงจันทน์ ที่ได้เดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างไม่ว่าจะเป็นทั้งในประเทศและตางประเทศวันนี้..จะมาเขียนเรื่องไปเที่ยวที่ไหนดีหนอ...เอานี้ดีกว่าเน่าะ  สปป.ลาว


  หลังจากตอนที่แล้วกับการเดินที่สุดแสนจะสนุกสนานและได้ลุ้นตลอดทาง...โชเฟอร์คนหล่อ

ของเราก็พาคนทั้งคณะมาถึง''ภูคูน''


โดยสวัสดิภาพครบอาการ32ทุกประการ..หลังจากเหตุการเมื่อตอนขึ้นเขามาได้หักหลบรถทัวย์ไปหนึ่งคัน(บนเขาข้างบนมีทางขึ้นหรอ) เพราะหาที่หลบเกือบไม่ได้ยกมือไหว้รอหาพ่อแก้วแม่แก้วกันระงมรถเลย...ได้พักผ่อนถ่ายรูปกันพอสมควรหลังจากนั้นเป้าหมายต่อไปคือ เมืองหลวงพระบาง


เมือทางภาคเหนือของ สปป.ลาว เมืองมรดกโลก  จะสวยงามหรือน่าเที่ยวแค่ไหน  หรือใครจะมีเรื่องระทมทุกข์อาบคราบน้ำตายังไง..ตามกันต่อล่ะกันครับ.........ล้อหมุ่นออกเดินทางจากภูคูนมุ่งหน้าสูเมืองหลวงพระบาง..ผมว่าน่ะหลายๆคนคงเคยไปเที่ยวกันมาบางแล้ว..ส่วนผมผู้เขียนนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เดินทางไปไปกำไรชีวิตครั้งหนึ่ง..บ่ายแก่ๆรถตู้คันงามก็พาคณะทัวย์มาถึงเมืองหลวงพระบางด้วยความเหนื่อยหล้าและออนเพลียจากการเดินทางและการลุ้นระทึกตลอดเส้นทางที่เส้นทางวกวนบนเขาสวนข้างล่างเป็นเหวลึก...(ถ้าตกลงไปคงไม่เหลือ) เลยขอไกด์คนหล่อขอเข้าโรงแรมที่พักก่อน..โรงแรมที่พักชื่อโรงแรมไหโศก ไม่แน่ใจชื่อโรงแรมแต่ออกเสียงยังงี้จริงๆทางไกด์อนุญาติให้อยู่ในห้อได้คนล่ะ1.30ชั่วโมงเพราะมีทั่วช่วงหัวค่ำที่ตลาดมืด..ที่ขึ้นชื่อของหลวงพระบาง ว่าแล้วก็พักผ่อนครับ.....18.00น เป่ะ
ไกด์คนหล่อก็มาเคาะที่ล่ะห้องอย่างสุภาพ....ห้องแรกเงียบ..ประตูล็อก...ห้องที่2เงียบประตูห้องล็อกห้องที่ 3-4-5เงียบและประตูล็อก เหลือห้องสุดท้ายนั้นคือห้องๆห้องของใครดีหว่า..ไม่บอกชื่อล่ะกันเดียวจะต้องตอบคำถามกันมากไปกว่าที่จะเป็น......ด้วยเหตุที่ทุกคนที่ไปในทัวย์ครั้งนี้มารวมตัวกันที่ห้องด้วยเหตุผลที่สะสมความแค้นกันมาตั่งแต่เมืองวังเวียงเมื่อคืน(เล่นไพ่)เสียเงินเลยเกิดการแก้แค้นกันขึ้น(นั้นแหละที่เค้าบอกว่าการพนันคือบ่อเกิดของความชิบหาย)หลังจากที่ไกด์คนหล่อมาตามเรียบร้อยวงเลยต้องแยกย้ายกันไปเตรียมตัวเพื่อไปตะเวนหาอะไรทานและไปช๊อปกันต่อที่ตลาดมืด...มีทริปพิเศษเกิดขึ้นคือหลังจากไปถึงร้านอาหารร้านหนึ่งที่แคมคาน(ริมฝั่งแม่น้ำคาน)
ด้วยสายตาที่ไม่อยู่สุขและเป็นคนชอบถ่ายรูปตาก็มองไปเรื่อยมือก็กดซัตเตอร์ไปด้วยแบบไม่ได้คิดอะไร..ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น..หลังจากทานอาหารค่ำเรียบร้อย..ไกด์คนหล่อมาบอกว่าได้เวลาไปช๊อปกันแล้ว(ทำยังกับในก๊วนมีสาวๆมาด้วย)ก็ไปขึ้นรถแล้วไปซ๊อปกันเลย....เมื่อถึงตลาดมือ.


.คนก็เยอะพอสมควรแสดงว่าดังจริง(ฮิตเป็นที่นิยม)ในใจไม่ได้คิดอะไรมากเพราะถ้าไม่ซื้อก็ไม่มีใครว่าอะไรเดินถ่ายรูปไปเรื่อยเพื่อรอเวลากลับที่พัก.........จน2200นไกด์มาตามบอกไปนั่งกินลมชมวิวต่อที่'แคมคาน'จุดเริ่มต้นของอะไรบางเริ่มขึ้นแล้วและจุดจบของอะไรบางอย่างก็เริ่มขึ้นเหมือนกัน......มาถึงแคมคานหาร้านที่จะนั่งชมวิมจิปเครื่องดืมเย็นเพื่อรอเวลากลับที่พัก(คิดครั้งที่2)นั่งคุยกันไปจิปกันไปสวนผูเขียนก็นั่งมองรูปในกล้องไปเรื่อยๆเพื่อหาดูว่ารูปไหนเสียมืดไปอะไรประมานนี้จะได้ลบนั่งทำนั่งกดไปเรื่อยๆจนสายตามาสดุดรูปหนึ่งก็มานั่งคิดรูปนี้ถ่ายตอนไหนคิดยังไงก็คิดไม่แต่ที่ออกแทนกลับเป็นน้ำตาที่ไหลซึมที่ขอบตาอย่างไม่ได้ตั่งใจ...(คืนนี้เบียร์อร่อยเป็นพิเศษ)ในรูปมีหญิงสาวนางหนึ่งและชายหนุ่มนั่งทานข้าวกันอยู่อย่างมีความสุขแสดงออกถึงการมีความรักต่อกันและความสัมพันธ์(แล้วกูล่ะคิดในใจ)http://youtu.be/fwKEAzXyvB4 อีกสักเพลง เอ้าล่ะได้เวลาไกด์มาตามแต่ผู้เขียนไม่รู้สึกตัวแล้วจำได้ว่าตื่นเช้ายังถามเพื่อนที่นอนห้องเดียวกันว่ากลับมาได้ไงแล้วก็กี่โมงล่ะ....คำตอบคือเมื่อคืนแบกพี่กลับมาขึ้นรถแทบม่ะไหวเลย..อิอิอิอิตอตนี้07.30น.รอรถมารับเพื่อไปเที่ยวกันต่อ...พอไกด์คนหล่อมาถึงก็ตามๆทุกห้องเช่นเคยจนถึงห้องผู้เขียนแล้วถามว่าไหวเปล่าจะไปกันต่อไหวมั้ย....คำตอบไปกันต่ออยู่แล้ว...อกหักน่ะเรื่องเล็กแต่(สาวๆ)อกเล็กน่ะเรื่องใหญ่
หลังจากนั้นก็ออกไปหาข้าวกันกันทั้งก๊วนอาหารเช้าวันนี้คือ ข้าวซอย หลวงพระบาง ลืมเอากล้องลงจากรถ(ไม่มีอารมย์จับกล้อง)ขอบอกว่าอร่อยมากจะว่าเหมือนข้าวเปียกเส้นก็อใช่จะว่าคล้ายเฝอก็ไม่แปลกเพราะมันคล้ายกัน..ตืนเช้าอยากดื่มน้ำมะพร้าวมากๆเลยสั่งน้ำมะเปล่า น้องๆที่ร้านเดินเข้ามาถามว่าน้ำมะพร้าวเป็นจอกไม่มีมีแต่แบบนั้นได้เปล่า..มองตามมือล่ะก็ต้อง ตกลงน้องเค้ายเลยจัดการมาจนครบ...หลังจากจัดการข้าซอยจนอิ่มหน่ำดีแล้วสถานที่ท่องเที่ยวต่างก็ตามรูป





ล่ะกันน่ะครับตัดบทมาที่ก่อนเดินทางกลับต้องหาซื้อของฝากมีหลายอย่างแต่ที่ผู้เขียนหิ้วกลับมากหน่อยก็คือ แจ๋วบอง หลวงพระบาง ไคลแผ่น ขนมขี้แมว(ชื่อนี้หรือเปล่า)และก็คราบน้ำตาจากหลวงพระบางอย่างเจ็บช้ำสุดๆฝากลิ้งเพลงไว้ลิ้งหนึ่งล่ะกันhttp://youtu.be/ZugTtK3NHbA เพราะมากชอบเลยเอามาฝาก........... purse  มอบให้ทีมงานที่ไปหลวงพระบางด้วยกันและทุกคนครับ



                                                                                                                                 ดีเจป๊อด 95.50-103.30MHz.
                                               
                                                                                                                                              

จบแล้วครับทริปพิเศษทัวร์หลวงพระบางรวมเวลา5วัน4คืนเดินทางกลับบ้านปลอดภัยครับเจอกันทริปหน้า หนองคาย-มุกดาหาร+นครพนม+ช่องเม็ค+ปากเซ+สวรรค์นเขต ครับมันมากๆ.....